วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2557

คืนความสุขให้ทุกพื้นที่ กับโปรแรงส่งท้ายปี ในงานบ้านและสวนแฟร์2014

    เตรียมพบกับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี กับเนเชอรัลโฮม ในงานบ้านและสวนแฟร์ 2014 ในงานนี้เนเชอรัลโฮม เตรียมเซอร์ไพรส์สุดพิเศษสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างบ้านในทุกพื้นที่
ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามเมื่องาน Home Builder Expo 2014 กับบ้าน5 แบบ ราคาเดียว 2.99 ล้านบาท เนเชอรัลโฮมจึงออกแบบบ้านใหม่ รุ่นคืนความสุข 4 แบบ เพื่อตอบรับกลุ่มคนเมืองที่มีที่ดิน 40 ตรว.  ด้วยราคาเบาๆ 2.49 ล้านบาท พร้อมอัพเกรดวัสดุ 13 รายการ ส่งท้ายฉลองปีที่ 13 ของบริษัท
แบบบ้าน Hot Design

แบบบ้านที่รับความสนใจมากที่สุดตลอดปีที่ผ่านมา เนเชอรัลโฮมจึงไม่พลาดที่จะนำความสุขนี้มาส่งให้ลูกค้าที่ต้องการบ้านดีไซน์เท่ๆ งบประมาณสบายๆ 4.99 ล้านบาท พร้อมอัพเกรดวัสดุพิเศษ มูลค่ากว่า 150,000 บาท
แบบบ้าน Hot Design



สุขต่อเนื่องกับบ้าน 5 แบบ HOT ราคาเดียว 5.99 ล้านบาท พร้อมอัพเกรดวัสดุพิเศษมูลค่า 200,000 บาท  ความโดดเด่นไม่ใช่มีดีแค่หน้าตาที่สวยงาม แต่ภายในบ้านยังมีฟังชั่นที่พร้อมจะมอบความสุขให้สมาชิกในครอบครัว  ให้ความสุขอบอวลในทุกตารางเมตร
แบบบ้านรุ่น Natural of Sense
ส่งท้ายด้วยแบบบ้านรุ่น Natural of Sense บ้านขนาดใหญ่ที่ นอกจากดีไซน์สง่าสงาม ให้ความรู้สึกสัมผัสถึงความอบอุ่นแล้วยังสามารถรองรับครอบครัวได้ทั้ง 3 generations ในงานนี้ส่งสุขเซอร์ไพรส์พิเศษด้วยรถยนต์ mini cooper รุ่นปี 2014



เพื่อให้การสร้างบ้านเป็นเรื่องดีๆ ที่เพิ่มความสุขให้ชีวิต มารับโอกาสพิเศษเพื่อสร้างความสุขบ้านกับเนเชอรัลโฮมได้ ในงานบ้านและสวนแฟร์ 2014 วันที่ 1 – 9 พฤศจิกายน 2557 ณ      ชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Oriental Orchid “สร้างบ้านในสไตล์คุณ”



ดอกไม้ ประตู แจกัน ดินทราย ต้นไม้ใหญ่ แวน้ำ จาน ชาม บันได โคมไฟที่สวยงาม


ถ้าใครเคยได้ฟังเพลงบ้าน คงเข้าใจเป็นอย่างดีว่าบ้านไม่ใช่เพียงสิ่งก่อสร้างจากอิฐ ปูน เหล็กเท่านั้น แต่ต้องมีสิ่งสำคัญคือครอบครัวรวมอยู่ด้วย บ้านจึงจะเป็นบ้านที่น่าอยู่  การได้รับเกียรติจากครอบครัวนี้เพื่อมาทำหน้าที่รับสร้างบ้านอันสำคัญหลังนี้  จึงถือเป็นหน้าที่ที่จะทำออกมาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้


Oriental Orchid คือบ้านหลังที่ออกแบบให้เข้าถึงธรรมชาติของเขตเมืองร้อนอย่างประเทศไทย ดังนั้นสิ่งสำคัญไม่ใช่รูปลักษณ์ภายนอกเพียงอย่างเดียว การวางฟังก์ชั่นภายในต้องสามารถตอบโจทย์เรื่องอยู่อาศัย

มุกโถงนั่งเล่นที่ชั้น 2 ของบ้านก็มองสามารถมองเห็นสระว่ายน้ำได้เช่นกัน แถมยังดีไซน์โพลีเก๋ๆ ไว้กันแดดกันฝนอีกด้วย













ชั้น 2 ใช้พื้นลามิเนตสีเข้มตัดกับผนังสีอ่อน แลดูสบายตา แน่นอนการใช้ช่องแสงเข้ามาช่วยทำให้บ้านดูโปร่งสบาย ไม่ทึบ ระบายอากาศได้เป็นอย่างดี 











ห้องน้ำอารมณ์แบบ Retro หรือ Vintage  แล้วแต่จะเรียก ออกแบบ chic ด้วย Skylight รับแสงธรรมชาติเหมาะกับคอนเซ๊ปดีไซน์







สิ่งสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ในการสร้างบ้านหลังนี้  ขอบรั้วและริมทางเดิน ล้วนแต่มีคำถามบ้านนี้จะมีความงามอย่างไรถ้าไม่มีเธอ

วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557

แต่งบ้านสไตล์ธรรมชาติ

แนวโน้มของการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในปัจุบันยังกลับไปสู่ความเรียบง่ายและเน้นสัมผัสของธรรมชาติอย่างชัดเจน  มนุษย์เรากลับมาโหยหาบ้านอันอบอุ่น อ่อนโยน และบรรยากาศของการอยู่ร่วมกันมากขึ้น เทรนด์การออกแบบและสร้างบ้านจึงต้องหันมาใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมตามไปด้วย   

            แนวทางการสร้างบ้านและตกแต่งบ้านที่เหมาะกับช่วงเวลาแบบนี้จึงให้ความสำคัญกับวัสดุธรรมชาติหรือวัสดุทดแทนที่ยังคงให้ความรู้สึกแบบธรรมชาติในด้านมุมมองและสัมผัสไว้ได้เป็นอย่างดี อาจผสมความอ่อนหวานแบบผู้หญิงสาวด้วยสไตล์วินเทจที่เน้นร่องรอยของสีซึ่งขูดลอกจากกาลเวลา เส้นสายจากเถาไม้เลื้อยที่น่ารัก ผสมกับลวดลายดอกไม้ สดใส เพื่อสร้างความอุ่นใจจากอดีต ทดแทนความไม่แน่นอนของอนาคต 

หรือความเรียบง่ายแบบสแกนดิเนเวียนที่แฝงถึงงานฝีมืออันประณีตและฟังก์ชันใช้งานที่คงทน แต่ขณะเดียวกันท่ามกลางงานตกแต่งที่ย้อนเวลาไปสู้ความสุขในอดีตนั้น ยังต้องผสมผสานด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งมาช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ตอบรับให้ตรงกับไลฟ์ไตล์ความทันสมัยของปัจจุบันอย่างกลมกลืน ทั้งหมดนี้จึงหนีไม่พ้นคำว่า ผสมผสาน หรือ Mix and Match บนพื้นฐานทางรสนิยมของตัวเองเพื่อชีวิตเก๋ๆ และความสวยงานที่น่าอยู่ของบ้านคุณ


โทนสีขาวเรียบของผนังไม้สร้างบรรยากาศผ่อนคลายให้เหมือนบ้านพักผ่อนริมทะเลเสริมด้วย
เก้าอี้เหล็กแบบย้อนยุคมีร่องรอยของกาลเวลา  และโต๊ะไม้ที่ให้สัมผัสแบบธรรมชาติ โดยสามารถปรับเป็นมุมนั่งเล่นในบ้านหรือห้องรับประทานอาหารตามการใช้งาน


การแต่งห้องด้วยสีเอิร์ธโทนทำให้อารมณ์ของห้องนั่งเล่นดูอบอุ่นสบาย เมื่อผสมระหว่างโซฟาผ้าสีเบจ  โต๊ะกลางไม้ดีไซน์โมเดิร์นหมอนอิงผ้าไหมสีสบายตา ท่ามกลางเส้นสายของงานดีไซน์ที่เรียบเท่








      เฟอร์นิเจอร์เก่าและของตกแต่งสไตล์วินเทจที่มีร่องรอยของสีขูดลอกหรือรอยขีดข่วนจากกาลเวลาช่วยเติม ความรู้สึกอบอุ่นจากอดีตได้ดี 

วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Bedroom โลกส่วนตัวใบเล็กที่เป็นมากกว่าที่นอน

ห้องนอนเปรียบเสมือนโลกส่วนตัวใบเล็กๆ ที่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างส่วนตัวและเป็นตัวของตัวเองที่สุด  จริงอยู่ที่เราสามารถเอนกายเอกเขนกได้ในทุกมุมสบายของบ้าน แต่บ้านทุกบ้านต้องมีห้องนอนหรืออย่างน้อยที่สุด ในคอนโดมิเนียมขนาดเล็กอย่างห้องสตูดิโอ ก็ยังต้องจัดมุมหนึ่งสำหรับตั้งเตียง หากเลือกได้ตำแหน่งห้องนอนควรเป็นห้องที่สงบเงียบที่สุดในบ้าน เพื่อให้เป็นห้องสำหรับการพักผ่อนทั้งกายและจิตใจ รวมถึงเป็นห้องที่สะท้อนตัวตนและรสนิยมของผู้เป็นเจ้าของห้องได้มากที่สุด



กำหนดพื้นที่ใช้สอย
 

ก่อนการลงมือสร้างบ้านและการเลือกเฟอร์นิเจอร์ห้องนอน  ควรคำนึงถึงพื้นที่ว่ามีรูปทรงอย่างไร ขนาดเท่าไร แล้วจึงกำหนดพื้นที่ใช้สอยโดยลำดับความสำคัญ เช่น มุมเตียง, มุมนั่งเล่น, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเครื่องแป้งและกระจก, ชั้นวางของ เป็นต้น โดยใช้ขนาดของห้องและความต้องการใช้พื้นที่ เป็นหลักในการกำหนดฟังก์ชันภายใน เช่น ต้องการห้องนอนที่ใช้นอนอย่างเดียว, ห้องนอนที่มีห้องน้ำและห้องแต่งตัวอยู่ด้วย, ห้องนอนที่มุมทำงานเล็กๆหรือนอนที่ต้องการมีทีวีชั้นดี เครื่องเสียงชั้นเลิศไว้ขับกล่อมยามนอนแต่สิ่งหนึ่งที่พึงระลึกเสมอ คือห้องนอนเป็นห้องสำหรับพักผ่อน ดังนั้น ทางที่ไม่ควรนำทุกอย่างมารวมไว้ในห้องนอน


เรื่องของแสงและสี
          ห้องนอนเป็นเรื่องของความรู้สึกและจิตสัมผัส ห้องนอนที่ดีต้องได้รับแสงจากธรรมชาติทั้งแดดและลม โดยคำนึงถึงช่องรับแสง ประตูหน้าต่าง เป็นหลัก และใช้สีโทนอ่อนๆ ภายในห้องนอน ไม่ควรใช้สีโทนสว่างเกินไป หากชอบสีขาวก็ลดโทนมีเป็นสีครีมแทน เพื่อลดการสะท้อนของแสงให้นุ่มนวลขึ้น ไม่ควรใช้สีฉูดฉาดเพราะจะความกระตือรือร้นจนไม่สงบ อย่าใช่วอลล์เปเปอร์ที่มีลวดลายมากมายจนน่าเวียนหัวขณะเดียวกันการใช้สีทึบอย่างเทา ดำ น้ำเงินกรมท่า ก็อาจส่งผลต่อภาวะจิตใจในเรื่องของอาการซึมเศร้าได้โดยไม่รู้ตัว 

ส่วนการจัดแสงภายในห้อง อาจใช้ไฟที่สามารถปรับแสงให้สว่างน้อยสว่างมากได้ตามอารมณ์หรือไม่ก็ใช้ไฟโทนแสงวอร์มไวท์ เพื่อสร้างบรรยกาศภายในห้องให้มีความรู้สึกอบอุ่นน่าพักผ่อน และอย่าลืมดูทิศทางของแสงแดดที่ส่องเข้ามาภายในห้อง ซึ่งอาจใช้มู่ลี่ปรับแสง หรือม่าน 2 ชั้น ช่วยกรองแสงก็ได้เช่นกัน

เฟอร์นิเจอร์และการตกแต่ง
   เลือกสไตล์ในแบบของห้องที่โดนใจ เช่น โมเดิร์น, อิงลิชคันทรี, วินเทจ, ร่วมสมัย, เรโทร หรือมิกซ์แอนด์แมตซ์ แล้วจึงเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน กำหนดมุมจัดวางเฟอร์นิเจอร์โดยดูจากทิศทางของช่องแสง เช่น ตั้งวางเตียงชิดผนังอย่างน้อย 1 ด้าน และไม่ควรหันหัวเตียงในทิศทางที่แสงแดดแรง





ตำแหน่งของเตียงไม่ควรอยู่ใต้คานหรือใต้เฟอร์นิเจอร์บิลท์อินที่ยื่นจากผนัง เพราะตามศาลของฮวงจุ้ยแล้วจะให้ผู้นอนรู้สึกเหมือนถูกกดทับ แต่ทางหลักวิทยาศาสตร์ก็คือเราอาจถูกสิ่งของตกใส่ได้นั้นเอง ควรตั้งวางเฟอร์นิเจอร์หลักอย่างโต๊ะ ตู้ เตียง ไว้ชิดผนัง และอย่าตั้งวางเฟอร์นิเจอร์ในลักษณะที่กีดขวางทางเดินเพราะอาจทำให้ดูรกตา ท่าสำคัญควรระวังการตั้งการตั้งวางกระจกเงาไม่ให้ทำมุมกับแสงที่ส่องเข้ามาภายในห้อง เพราะเป็นสาเหตุของไฟลุกไหม้ได้ และหลีกเลี่ยงการใช้ของตกแต่งที่เก็นฝุ่นได้ง่าย เช่น พรมขนสัตว์ พรมขนยาว หรือตุ๊กตาขนยาว ซึ่งสามารถเป็นต้นเหตุของการเกิดโรคภูมิแพ้ในอนาคตได้

วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2557

แบบบ้าน Regulas : Heart of the Lion สไตส์ Modern Minimalist Style

ในเดือนกลางปีเช่นนี้  เป็นช่วงของชาวจักรราศรี GEMINI ซึ่งเนเชอรัลโฮมมี Project  พิเศษเกี่ยวกับดวงดาวกับเค้าเหมือนกัน  วันนี้ขอแนะนำแบบบ้านจากกลุ่มดาวสิงโต  แบบบ้าน Regulas : Heart of the Lion แค่ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าโดดเด่นแค่ไหน เพราะกลุ่มดาวสิงโตคือดวงดาวที่เจิดจ้าบนท้องนภาที่กว้างใหญ่ แบบบ้านที่มีความหมายยิ่งใหญ่แบบนี้  คงมีความพิเศษอะไรซ่อนอยู่ admin จึงพาดาวเด่นดวงนี้มาแนะนำให้รู้จัก     

เริ่มที่คอนเซปบ้าน นิยามของ Regulas คือ  Modern Minimalist Style  : “Less is More”  น้อยแต่มากด้วยประโยชน์  รูปลักษณ์ที่แข็งแกร่ง แต่ไม่กระด้าง ตรงไปตรงมา แต่แฝงเสน่ห์ซ่อนเร้น ใช้วัสดุไม่มาก เน้นที่มีประโยชน์  ว่าจะเป็นระแนวบังตา ที่ช่วยบังแสงแดด กระเบื้องกรุผนังที่ช่วยซับความร้อนจากกำแพง ดีไซน์ใช้สีขาวตัดกับความขรึมของหินกรุสีเทา แบบโมโนโทน ใช้เส้นสายตรงไปตรงมาแบบเรขาคณิต แต่ลดทอนความแข็งของวัสดุด้วยระแนงไม้บังตาสีน้ำตาล เพื่อให้บ้านมีบรรยากาศที่เงียบสงบ และผ่อนคลาย


การออกแบบของฟังก์ชั่นภายในก็เช่นกัน เน้นประโยชน์ใช้สอยที่สอดคล้องและตอบสนอง life style ไมว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ เฉลียงและห้องพักผ่อนริมสระ สำหรับการออกกำลังกาย ปาร์ตี้งานเลี้ยงริมสระ ให้คนเมืองที่รักความเป็นส่วนตัวแต่ยังเชื่อมโยงกับสังคมได้มีพื้นที่พิเศษสำหรับคนสนิทที่จะมาสังสรรค์ภายในบ้าน  พร้อมที่จอดรถพร้อมถึง 4 คัน


ชั้นสองในส่วนของปีกขวาของบ้าน ถูกจัดให้เป็นพื้นที่ของครัว รับประทานอาหาร และนั่งเล่น เชื่อมต่อกันโดยไม่มีการกั้นผนังให้รู้สึกอึดอัด แนวการตกแต่งแบบ Open space นี้ถ้าเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์สีขาว จะยิ่งทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกผ่อนคลาย สบายตา แต่ถ้ารู้สึกว่ามันจะดูโล่งไปก็ใช้ไม้พื้นสำเร็จ (ลามิเนต) หรือพื้นปาร์เก้ในโทนสีเข้มเข้ามาตัด เพื่อให้สีตัดกันเพิ่มเสน่ห์และความน่าสนใจให้กับห้องนี้มากขึ้น


ในส่วนของปีกซ้าย ซึ่งถูกออกแบบเป็นห้องนอนแบบ Studio Suit  คือมีพื้นที่ครบครันในห้องเดียว ไม่ว่าจะเป็น ส่วนนอน ทำงาน ห้องน้ำและแต่งตัว ห้องนอนในลักษณะนี้ผู้อยู่อาศัยสามารถตกแต่งห้องได้หลากหลายสไตล์ แต่ถ้ายังชอบคอนเซ๊ปของคำว่าน้อยแต่มากด้วยประโยชน์  admin จึงแนะนำมาในแบบของคุณผู้ชายที่ชอบความขรึมๆ แต่เท่ห์และเฉียบ


ขึ้นมาที่ชั้นบนสุดของบ้าน ปีกซ้ายคือโซนของห้องนอน พื้นที่ประมาณ  31 ตร.ม ถูกจัดสรรพื้นที่อย่างลงตัวครบครัน ส่วนปีกขวาจะเป็น  Master bedroom ด้วยพื้นที่เกือบ 50 ตร.ม ห้องนอนนี้จึงสามารถจัดสรรพื้นที่ใช้ประโยชน์ได้หลายส่วน ทั้งนั่งเล่น ทำงาน นอนหลับพักผ่อน ห้องแต่งตัวขนาดกำลังดี  ห้องน้ำที่มีพื้นที่จัดสวน
 
 

ทุกส่วนของบ้านหลังนี้บนพื้นที่ใช้สอยกว่า 430 ตร.ม ถูกออกแบบโดยคิดคำนึงการใช้สอยประโยชน์ได้จริงทุกพื้นที่  แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะใส่ความพิเศษในงานดีไซน์ทางสถาปัตย์เพิ่มเข้าไปด้วย  ถ้าท่านใดที่ต้องการเป็นเจ้าของบ้านสุดพิเศษหลังนี้   เนเชอรัลโฮมเตรียมความพิเศษมอบให้ ในปีพิเศษ Lucky Year ช่วงสิงหาคมนี้ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.naturalhome.co.th

วันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

แบบบ้าน Amber (NH 882) สไตล์โมเดิร์นเอกลักษณ์ที่เผยธรรมชาติของวัสดุที่ใช้ และรูปทรงที่ตอบสนองประโยชน์ใช้สอยสูงสุด



แบบบ้าน                 
Amber (NH 882)
พื้นที่ใช้สอย                  300.00 ตารางเมตร
ขนาดของตัวบ้าน          กว้าง 13.00  เมตร ลึก 13.50 เมตร
ขนาดที่ดิน                    เนื้อที่ดินประมาณ 84 ตารางวา กว้าง 17.0  เมตร ลึก 17.50 เมตร
ลักษณะของบ้าน           บ้าน 2 ชั้น Modern Style
จุดเด่นของบ้าน            สไตล์โมเดิร์นเอกลักษณ์ที่เผยธรรมชาติของวัสดุที่ใช้ และรูปทรงที่ตอบสนองประโยชน์ใช้สอยสูงสุด   ให้ความเรียบง่าย แต่เบื่อยาก เน้นรูปแบบการใช้งาน (Functional) พื้นที่ในบ้านจะไม่มีการปิดกั้นทางสายตา เพราะจะเชื่อม space ให้ดูเห็นทั่วกันหมด เกิดความโปร่งโล่งสบาย  ใช้เส้นสายรูปทรงเรขาคณิตสี่เหลี่ยมมาใช้   สีสันที่ใช้เล่นเพียง 3 สีเท่านั้น  คือ ขาว เทา และน้ำตาล การใช้องค์ประกอบที่ดูน้อยเช่นนี้ ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกอยู่สบาย ไม่เลี่ยน  เลือกใช้วัสดุที่เป็นที่นิยม นั่นคือ เหล็ก กระจก และไม้ฝ้าทาสี นอกจากนี้ยังใช้กรอบบานประตู-หน้าต่างสีดำเพิ่มความน่าสนใจในบ้านแบบนี้มากขึ้น

ส่วนประกอบของบ้าน  4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ห้องรับแขก ห้องรับประทานอาหาร ห้องเตรียมอาหาร ครัวไทย ห้องนอนแม่บ้าน ห้องเก็บของ 2 ห้อง ระเบียงนั่งเล่น  ที่จอดรถ 2 คัน



วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

สร้างบ้านเพื่อความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (eco-design concept)

โดยทั่วไปแล้วการออกแบบหรือสร้างบ้านเพื่อความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสามารถพิจารณาไปในด้านหลักๆ ได้ 2 ด้านคือ การเลือกใช้เทคโนโลยี และการเลือกวัสดุและพืชพันธ์ โดยมีรายละเอียดแต่ละด้านดังต่อไปนี้
1. ด้านเทคโนโลยี (eco-design technology)
เทคโนโลยีที่เหมาะสมสำหรับบ้าน ประกอบไปด้วย 3 ด้านคือ ด้านพลังงาน ด้านการระบบรดน้ำต้นไม้ และการออกแบบด้วยระบบธรรมชาติ (passive design) โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.1     การเลือกใช้ระบบผลิตน้ำร้อนจากพลังงานแสงอาทิตย์ (solar collector) เป็นอุปกรณ์ผลิตน้ำร้อนโดยอาศัยหลักการเปลี่ยนพลังงานจากรังสีแสงอาทิตย์มาเพิ่มอุณหภูมิให้น้ำมีอุณหภูมิสูงขึ้นซึ่งสามารถนำมาทดแทนระบบผลิตน้ำร้อนจากเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือแหล่งพลังงานอื่นๆ โดยจะมีประโยชน์ในการลดการใช้พลังงานเหล่านั้นลงไป ตัวอย่างดังแสดงในรูปที่ 1

รูปที่ 1 ตัวอย่างระบบ solar collector (ที่มา- eakaphatenergy.com)


โดยระบบผลิตน้ำร้อนจากพลังงานแสงอาทิตย์ยังสามารถนำมาใช้ร่วมกับระบบผลิตน้ำร้อนจากเครื่องปรับอากาศ (Heat Recovery System), ระบบผลิตน้ำร้อนจากปล่องควัน เรียกว่า ระบบผลิตน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์แบบผสมผสาน (Solar Hybrid System) ซึ่งเป็นระบบที่สามารถนำพลังงานฟรีจากแสงอาทิตย์มาใช้ร่วมกับพลังงานความร้อนเหลือทิ้งจากเครื่องปรับอากาศหรือเครื่องต้มน้ำ (boiler) จึงเป็นระบบที่มีระยะเวลาคืนทุนที่เร็วที่สุด (สำนักพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน 2556)
1.2     ระบบการส่งน้ำรดต้นไม้แบบกึ่งอัตโนมัติ (semi-automatic water irrigation system – SWI) เนื่องจากการรดน้ำต้นไม้เป็นกิจกรรมหลักของการดูแลรักษาสภาพของภูมิทัศน์ ระบบการส่งน้ำเป็นประเด็นที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะระบบที่นิยมใช้เป็นระบบที่อาศัยแรงดันน้ำจากจักรกล แต่ระบบดังกล่าวใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน จึงเป็นการเพิ่มต้นทุนในการบริหารจัดการในระยะยาว ดังนั้นระบบที่เห็นควรนำมาพิจารณาใช้คือระบบที่ลดการใช้เครื่องจักรกลในกิจกรรมดังกล่าว และพยายามปล่อยให้การไหลแบบธรรมชาติด้วยแรงโน้มถ่วง และระบบการไหลซึมผ่านวัตถุพรุนน้ำเป็นตัวขับเคลื่อนการไหล
1.3     แนวทางการออกแบบอาคารแบบประหยัดพลังงาน โดยทั่วไปแล้วการออกแบบอาคารประหยัดพลังงานนั้นมีแนวทางการออกแบบ 2 รูปแบบคือ แบบอาศัยเครื่องจักรกล (active design) และแบบเน้นพึ่งพาธรรมชาติ (passive design) ซึ่งทั้งสองรูปแบบพยายามจะให้เกิดภาวะอยู่สบายแต่มีภาคปฏิบัติต่างกัน ทั้งนี้การออกแบบและนำไปก่อสร้างควรเลือกให้สอดคล้องกับสถานการณ์และบริบทรอบข้าง เช่นการออกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการพื้นฐานของผู้อยู่อาศัยในเรื่องพื้นที่ใช้สอย การเชื่อมต่อพื้นที่ใช้งานและความยืดหยุ่นในการวางตำแหน่งอาคาร ซึ่งสามารถสรุปผลเป็นรูปธรรมต่อรูปแบบทางสถาปัตยกรรม ยกตัวอย่างเช่น การวางแนวอาคารในทิศเหนือ-ใต้ เพื่อให้พื้นที่รับแดดอยู่ด้านแคบ แต่เปิดรับลมได้ดี กำหนดตำแหน่งช่องเปิดให้รับลมประจำทิศใต้ ให้สามารถเข้า-ออก และกระจายทั่วอาคารได้ ปรับสภาพแวดล้อมรอบอาคาร โดยอาศัยประโยชน์จากธรรมชาติ เป็นต้น ทั้งนี้ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ใช้การออกแบบเพื่ออาคารประหยัดพลังงานเต็มรูปแบบ (เพราะมีผลต่อค่าใช้จ่าย) แต่การเลือกใช้ในบางประเด็นที่ลงทุนไม่มากแต่ได้ผลดี


2. เทคโนโลยีการเลือกวัสดุและพืชพันธ์ (eco-material technology and planting)
ในส่วนนี้จะเน้นไปที่วัสดุที่ไม่ใช่ส่วนของอาคารโดยตรง ซึ่งจะเน้นไปที่วัสดุส่วนภูมิทัศน์และงานบริเวณอื่นๆ เช่นที่จอดรถ ทางเท้า และถนน เป็นต้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชะลออัตราการไหลของน้ำผิวดินที่เกิดจากฝนตก (ลดการสึกก่อนของพื้นผิว) เพิ่มพื้นที่สีเขียวแต่ยังคงความแข็งแรง ในขณะที่การเลือกต้นไม้ที่เหมาะสมนั้น จะมีส่วนช่วยในการประหยัดค่าใช้จ่ายในการทำนุบำรุง-ดูแล และยังไม่เป็นการทำลายระบบนิเวศน์เดิมของพื้นที่อีกทางหนึ่งด้วย จึงนำเสนอรูปแบบการออกแบบโดยเน้นการเลือกวัสดุมาใช้งานในแต่ละจุดดังต่อไปนี้
2.1     เลือกใช้บล็อกหญ้าในการปูที่จอดรถ (grass block) ที่จอดรถเป็นที่โล่งที่ปกติอยู่กลางแจ้งและเป็นที่รับน้ำฝนโดยตรง ทั้งนี้โดยทั่วไปที่จอดรถอาจเทคอนกรีตปกติก็สามารถใช้งานตามวัตถุประสงค์แล้ว แต่ปัญหาของลานคอนกรีตคือการสะท้อนความร้อนจากแสงอาทิตย์ไปยังพื้นที่รอบข้าง รวมไปถึงการที่ไม่สามารถหน่วงการไหลของน้ำได้ดีทำให้อาจเกิดการไหลที่เร็วเกินไปจนสร้างความเสียหายสึกกร่อนได้ ดังนั้นควรเลือกใช้ grass block แทน เพื่อให้หญ้าลดการสะท้อนของแสงอาทิตย์และเพิ่มสัดส่วนพื้นผิวที่น้ำซึมผ่านได้ง่าย โดยมีตัวอย่างของ grass block ดังแสดงในรูปที่ 2

                           

                           

รูปที่ 2ตัวอย่างของ grass block ที่มา – (vanstone.co.za/node/10)

2.2     เลือกใช้พืชท้องถิ่น (native plant) การเลือกใช้พืชท้องถิ่นนั้นมีประโยชน์หลายเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดปัญหาการบำรุงรักษา เนื่องจากพืชท้องถิ่นมักทนต่อสภาพท้องถิ่น ทนต่อโรคได้ดี อีกทั้งยังไม่เป็นการทำลายระบบนิเวศน์เดิมของพื้นที่ เนื่องจากต้นไม้มักเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ท้องถิ่นอื่นๆ ซึ่งสัตว์บางประเภทต้องอาศัยพืชหรือต้นไม้บางชนิดเท่านั้น นอกจากนี้ตำแหน่งของการวางต้นไม้ใหญ่ ในด้านที่เหมาะสมก็จะช่วยทำให้ลดความร้อนเข้าสู่อาคารซึ่งการออกแบบควรคำนึงถึงจุดนี้ด้วย

บทสรุป
ข้างต้นเป็นแนวทางในเบื้องต้น ซึ่งในการทำงานจริงเมื่อได้ข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งเรื่องข้อจำกัดอื่นๆที่จะเกิดขึ้น จะทำให้แนวทางการออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อมชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ไม่มีแนวทางใดเหมาะสมกับทุกสถานที่ ดังนั้นการศึกษา-วิจัยที่เหมาะสมจะทำให้การออกแบบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพตามวัตถุประสงค์

เรื่องโดย  ดร. ดำรงศักดิ์  รินชุมภู 
13 กุมภาพันธ์ 2557